โบท็อก เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่งที่ สร้างจากแบคทีเรีย ชื่อ ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) โบท็อกถูกนํามาใช้ในวงการ เสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทําให้มัดกล้ามเนื้อทํางาน ลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทําให้ผิวเต่งตึงได้
การฉีดโบท็อกกราม จะช่วยเรื่องลดกราม กระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว โดยโบท็อกจะ ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลให้กล้ามเนื้อทํางานได้ลดลงและมีขนาดเล็กลง ทําให้ ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน
การฉีด Botox ริ้วรอย เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยย่นบนใบหน้า เช่น รอยย่น บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา หางตา ตีนกา โบท็อกซจะช่วยลดริ้วรอยย่นที่เกิดจากการแสดงสีหน้า และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ เนื่องจากผลการออกฤทธิ์ของโบท็อกในช่วง 3-4 เดือน สามารถป้องกันการก่อตัวของริ้วรอยใหม่ เพราะกล้ามเนื้อบนใบหน้าทํางานน้อยลง
การฉีดโบท็อกรักแร้ คือ วิธีลดปริมาณเหงื่อบริเวณรักแร้ผ่านการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) เพื่อควบคุมการผลิตเหงื่อของร่างกาย โดยจะฉีดข้างละ 50-100 ยูนิต เข้าไป บริเวณรักแร้ 20-30 จุด ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80%
การฉีดโบท็อกปีกจมูก คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) บริเวณปีกจมูก เพื่อปรับรูปร่างและขนาดของปีกจมูกให้ดูเข้ากับโครงสร้างใบหน้าของผู้เข้ารับบริการมากขึ้น หลัง การฉีดจะเริ่มเห็นผลลัพธ์และคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน
เป็นการ ฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน โดยใช้เทคนิคที่ฉีดกรอบหน้าเท่านั้น เพื่อยกกระชับใบหน้าทํา ดูมีมิติขึ้น การลิฟท์หน้าจะช่วยทําให้ใบหน้าดูกระชับและเข้าที่ กรอบหน้าชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างความเต่งตึงให้ผิวหน้ากลับมาดูเด็กอีกครั้ง
การฉีดน่องด้วยการทําโบท็อกซ์ หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นอีกหนึ่งวิธีการคล้าย กันกับการฉีดบริเวณส่วนๆอื่น เช่น ที่ใบหน้า กราม คือ เป็นการลดขนาดกล้ามเนื้อ ทําให้เรียวเล็กลง โดยฉีด โบท็อกไปยังกล้ามเนื้อ (Gastrocnemius) บริเวณน่อง เพื่อให้ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทําให้กล้ามเนื้อน่อง ที่ใหญ่มีขนาดเล็กลงผลการรักษาอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แล้วแต่บุคคล และ กล้ามเนื้อบริเวณน่องด้วย สามารถฉีดซ้ําได้เพื่อคงขนาดของน่องให้เรียวเล็กได้
โบท็อกเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทําให้มัดกล้ามเนื้อทํางานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้าม เนื้อ การฉีดโบท็อกต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการฉีด เพื่อความปลอดภัยและ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โบท็อกมีหลายยี่ห้อ แต่โบท็อกที่ผ่านการรับรองในไทย มีดังนี้
NABOTA ได้รับความนิยมและได้ยินชื่อบ่อยที่สุดจะต้องเป็นยี่ห้อ Nabota แน่นอน เพราะเป็น Botox เกรดพรีเมียมจากประเทศเกาหลี ขึ้นชื่อในเรื่องของความบริสุทธิ์และผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ
Aestox สําหรับตัวนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เพราะเป็น Botox จากเกาหลีตัวใหม่ล่าสุดที่พึ่ง จะได้รับการรับรองจาก อย.ในประเทศไทย มีความบริสุทธิ์สูงมาก ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ ทําให้หน้าดูแข็งตึง
Allergan เป็น Botox สัญชาติอเมริกาที่มีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี จนมีงานวิจัยรองรับมากมายและยาวนานที่สุดกว่า 4,000 งานวิจัย ทําให้เป็นโบท็อกที่มีความปลอดภัย มี ประสิทธิภาพ ถือเป็น Botox ที่มีคุณภาพสูงที่สุดและให้ผลลัพธ์หลังการฉีดดีที่สุด
Dysport เป็น Botox จากประเทศอังกฤษ โดดเด่นในเรื่องคุณสมบัติที่มีการออกฤทธิ์แบบกระจาย ตัวเป็นวงกว้าง จึงเหมาะสําหรับการฉีดเพื่อลดต้นแขน กระชับน่อง และสามารถฉีดที่บริเวณรักแร้เพื่อแก้ ปัญหาเหงื่อ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เคยมีรายงานการแพ้หรือการสร้างภูมิดี้อเลย
Xeomin โบท็อก Xeomin หรือที่บางคนเรียกว่าโบท็อกเยอรมัน เป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยม อย่างมาก และเป็นโบท็อกโมเลกุลเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทํางาน ของระบบประสาทได้ดี และขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์สูง จึงมักนํามาใช้เพื่อแก้ปัญหาการดื้อยาจากการฉีด Botox ที่ไม่ได้คุณภาพ
หลังจากฉีด โบท็อกแล้ว ระยะเวลาการออกฤทธิ์ จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ 14 วัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกไม่ได้อยู่ถาวร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-6 เดือน โดยโบท็อกแท้สามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง
สําหรับคนที่ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลลัพธ์นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการฉีดโบท็อกปลอม หรือโบท็อกที่ ไม่มีคุณภาพ ทําให้ตัวยาออกฤทธิ์น้อย หรืออีกกรณี คือใช้โบท็อกแท้ในการฉีด แต่ร่างกายมีการสร้างภูมิ ต้านทานกับโบท็อกแท้ อาจได้ผลดีในครั้งแรกที่ฉีด แต่ครั้งต่อๆไปจะได้ผลลดลง
การฉีดโบท็อกไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทําให้ดื้อโบท็อกได้ โดยปกติควรฉีดโบท็อกเว้นจากครั้ง ล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (ไม่ควรเว้นเกิน 5 – 6 เดือน) เพราะจะทําให้กล้ามเนื้อ กลับมาทํางานได้ปกติ และทําให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น